ท่อประปา
ท่อประปา
ท่อประปา ทำจากวัสดุต่างๆ แบ่งเป็น 5 ประเภท ดังนี้
1. ท่อประปาเหล็กอาบสังกะสี
ข้อดี: มีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี ทนทานต่อแรง กระแทกได้ ไม่หักงอ ทนต่อความดันและอุณหภูมิที่สูงๆ เช่น เครื่องทำน้ำร้อน
ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างแพง ถ้าใช้ไปนานๆ อาจเกิดสนิม ได้ โดยเฉพาะที่ฝังอยู่ในดิน อาจเป็นอันตราย ถ้านำน้ำในท่อ มารับประทาน
2. ท่อ PVC (Poly Vinyl Chloride) แบ่งเป็น 2 ชนิดตามการใช้งาน ได้แก่
- ท่อสีเหลือง เป็นท่อสำหรับร้อยสายไฟฟ้า และสาย โทรศัพท์ เพราะสามารถทนต่อความร้อนได้อย่างดี
- ท่อสีฟ้า เป็นท่อที่ใช้กับระบบน้ำ เช่น ระบบน้ำดื่ม น้ำเสีย และงานท่อระบายน้ำ สามารถทนแรงดันน้ำได้มากน้อยตามประเภท การใช้งาน (มีหลายเกรด)
- ท่อสีเทา เป็นท่อที่ใช้สำหรับการเกษตร หรือน้ำทิ้ง ก็ได้ ราคาค่อนข้างถูก ไม่ค่อยแข็งแรง ควรจะเดินลอย ไม่ควร ฝังดิน
ข้อดี: น้ำหนักเบา ราคาถูกกว่า สามารถดัดงอได้ และ ไม่เกิดสนิมน้ำในท่อจะสะอาดกว่า
ข้อเสีย: ไม่สามารถทนต่อแรงกระแทกแรงๆ ได้ ไม่ทนต่อความดันและอุณหภูมิที่สูง
3. ท่อ PE – Poly Ethylene ท่อโพลีเอทิลีน หรือ พีอี เป็นวัสดุทางเคมีที่มีค่าความหนาแน่นสูง
ข้อดี: น้ำหนักเบา สะดวกในการเคลื่อนย้าย ยืดหยุ่นได้ดี ทนแรงกระแทก ไม่มีสารพิษ ขดเป็นม้วนได้ทนสารเคมี อายุการใช้งานยาวนาน ทนแสงอาทิตย์
ผิวในท่อเรียบ ของเหลวไหลสะดวก
4. ท่อไซเลอร์ ภายนอกเป็นท่อเหล็ก GSP. ภายในเป็นท่อ PE.
ข้อดี: มีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี ทนทาน กระแทกได้ ไม่หักงอ ทนต่อความดันและอุณหภูมิสูงถึง 95 องศา ไม่เป็นสนิม เหมาะสำหรับ ใช้ติดตั้งใน โรงแรม อาคารขนาดใหญ่ สถานที่ ๆ ต้องการความทนทานสูง หรือสถานที่ ที่ยากต่อการซ่อมแซม
ข้อเสีย: ราคาสูง
5. ท่อพีพีอาร์ ผลิตจากเม็ดพลาสติกคุณภาพสูง (Thermo Plastic)
ข้อดี: การเชื่อมต่อระหว่างท่อ กับข้อต่อ ใช้วิธีการให้ความร้อน ด้วยคุณสมบัติพิเศษจึงทำให้ท่อและข้อต่อสามารถเชื่อมผสานกันเป็นเนื้อเดียว จึงมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาการรั่วซึมที่บริเวณจุดต่อเชื่อมระหว่างท่อและข้อต่อ สามารถทนอุณหภูมิและแรงดันได้สูง แข็งแรงและมีอายุการใช้งานยาวนานไม่เป็นสนิม สามารถใช้เป็นท่อน้ำดื่มได้ เหมาะสำหรับใช้ติดตั้งในบ้านพัก ที่อยู่อาศัย คอนโด ตึกแถว หรืออาคาร
ข้อเสีย: ไม่สามารถทนต่อแรงกระแทกแรง ๆ ไม่เหมาะกับการติดตั้งใต้พื้นดิน หรือพื้นคอนกรีตที่มีการทรุดตัวมาก
การเลือกอุปกรณ์ประปา เลือกใช้วัสดุที่เหมาะกับประเภทงานที่ใช้ ทั้งระบบน้ำดี และระบบประปาน้ำทิ้ง
1. ท่อพีวีซี (PVC)
ท่อพีวีซีสีฟ้ามีหลายเกรด คุณภาพแตกต่างกัน สามารถแบ่งเป็น 3 ระดับคุณภาพ ตามความสามารถในการทนแรงดันน้ำ ได้แก่
- คุณภาพระดับ 5 เหมาะแก่การใช้งานท่อระบายน้ำ ซึ่งเป็นระบบที่มีแรงดันไม่มากเป็นแรงดันที่ไหลมากตามธรรมชาติ
- คุณภาพระดับ 8.5 เหมาะกับการประปาน้ำดี ในบ้านและอาคารทั่วไปที่ทีการรับแรงดันที่เกิดจากปั๊มน้ำ
- คุณภาพระดับ 13.5 เหมาะกับงานใช้ปั๊มที่แรงดันสูง เช่น คอนโด หรือโรงแรม
2. น้ำยาประสานท่อพีวีซี การต่อท่อและข้อต่อพีวีซีสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด
1. ท่อน้ำดี ส่วนใหญ่จะมีแรงดันสูง 5 บาร์ขึ้นไป (ผ่านปั๊มน้ำ)
2. ท่อน้ำทิ้งทั่วไป มักจะมีแรงดันสูงไม่เกิน 5 บาร์ (ไหลตามธรรมชาติ)
การต่อกับอุปกรณ์ข้อต่อจะต้องใช้น้ำยาประสานท่อพีวีซีที่ต่างกัน โดยหลักการคือ ท่อที่มีแรงดันจะใช้น้ำยาประสานท่อพีวีซีชนิดบรรจุใยหลอดซึ่งจะมีความเข้มสูง มีประสิทธิภาพในการละลายผิวท่อกับอุปกรณ์ ให้ติดเป็นเนื้อเดียวกัน นอกจากนี้ยังเหมาะกับงานซ่อมแซมเองจากน้ำยามีความเข้มข้นสูงทำให้แห้งไว้ สามารถใช้งานได้รวดเร็ว ส่วนการต่อท่อที่ไม่มีแรงดัน จะใช้ชนิดบรรจุกระป๋อง ซึ่งน้ำยาใสกว่าชนิดแรกและราคาถูกกว่า มีประสิทธิภาพในการละลายเนื้อพีวีซีเหมือนกัน แต่ระยะเวลาในการแห้งช้ากว่าแบบเข้มข้น จึงเหมาะกับการใช้งานระบายน้ำที่ใช้ท่อขนาดใหญ่ที่จะช่วยยืดระยะเวลาในการปรับแต่งท่อดีกว่า ซึ่งหากใช้น้ำยาชนิดใสไปทาท่อที่มีแรงดัน หากท่อต้องอยู่กลางแจ้งถูกแดดเผานานๆ ท่ออาจจะหลุด รั่วได้ง่าย ในขณะที่หากใช้น้ำยาชนิดเข้มข้นมาทาท่อน้ำทิ้งก็ได้ แต่ก็จะสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ
3. อุปกรณ์ข้อต่อพีวีซี
การเลือกใช้อุปกรณ์ข้อต่อที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งานก็อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาน้ำรั่วซึมได้ โดยเฉพาะบริเวณก๊อกน้ำ หรือจุดจ่ายน้ำเข้าอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน ควรเลือกใช้ข้อต่อเกลียวในทองเหลืองในการเชื่อมต่อแทนข้อต่อเกลียวในเป็นพีวีซีธรรมดา เพราะทนทานต่อการสึกหรอจากการติดตั้งอุปกรณ์เป็นเกลียวเหล็ก
การดูแลรักษาท่อน้ำและอุปกรณ์ประปาภายในบ้านเรือน
1. ท่อน้ำประปา
- มั่นตรวจเช็ควัสดุท่อน้ำประปาสม่ำเสมอ เมื่อพบว่าท่อน้ำหรืออุปกรณ์ประปาแตก มีน้ำรั่วไหลออกมา รวมไปถึงการรั่วใต้ดินที่มองไม่เห็น ควรรีบซ่อมแซมท่อ หรืออุปกรณ์เหล่านั้นให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานทันที เพราะท่อและอุปกรณ์ที่รั่วทำให้สูญเสียน้ำไปมาก นอกจากสิ้นเปลืองแล้วอาจเป็นต้นเหตุให้สิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันในท่อน้ำหรือ เครื่องสูบน้ำได้
- กรณีใช้งานท่อเหล็กเก่าเป็นเวลาเกิน 5 ปี ทำให้น้ำประปามีคราบแดงเนื่องจากตะกอนสนิมปะปนอยู่ หากพบว่าท่อเก่าเป็นสนิมควรรีบเปลี่ยนท่อน้ำใหม่ทันที
2. เครื่องสูบน้ำ
เครื่องสูบน้ำ ที่สูบโดยตรงจากท่อน้ำประปา อาจจะดูดสิ่งสกปรกจากบริเวณใกล้เคียง เช่น น้ำขุ่นจากท่อแตกรั่ว หรือน้ำแดงจากท่อที่เป็นสนิม เข้ามาในระบบท่อประปาในอาคารได้ ดังนั้นควรติดตั้งถังพักน้ำเพื่อสำรองน้ำไว้ก่อน แล้วค่อยสูบน้ำจากถังพักน้ำจ่ายไปยังท่อน้ำประปา ภายในตัวอาคารเพื่อที่จะได้น้ำที่สะอาดไว้ใช้บริโภค
3. ถังพักน้ำ หรือถังเก็บน้ำ
ควรล้างทำความสะอาดอย่างน้อยๆ ทุก 6 เดือน หากไม่มีการล้างถังพักน้ำ หรือถังเก็บน้ำเลย สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่เล็ดรอดเข้าไป จะเจริญเติบโตเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้น้ำประปาปนเปื้อนสิ่งสกปรกโดยไม่รู้ตัว ถังพักน้ำ หรือถังเก็บน้ำมักเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำ ไม่ได้รับมาตรฐาน
4. เครื่องกรองน้ำ
เครื่องกรองน้ำที่ใช้งานมานานโดยไม่ได้ล้างหรือเปลี่ยนไส้กรอง อาจจะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรียนานาชนิด ควรทำความสะอาด เครื่องกรองน้ำทุก ๆ 3 เดือน
16 ตุลาคม 2562
ผู้ชม 4195 ครั้ง